วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กรณีศึกษาไอทีกับงานซ่อมบำรุงที่โรงพยาบาลศิริราช

สรุปปัญหาของงานซ่อมบำรุงของโรงพยาบาล ศิริราช ก่อนที่จะนำระบบไอทีมาใช้งานและวิเคราะห์ไอทีกับงานซ่อมบำรุงของโรงพยาบาลศิริราช ตามหัวข้อดังนี้

1 . เครือข่ายคอมพิวเตอร์ - มีการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์มาช่วยโดยเมื่อก่อนในการแจ้งซ่อมของหน่วยงานต่างๆจะต้องส่งใบแจ้งซ่อมไปยังหน่วยซ่อมบำรุงแล้วทางหน่วยจึงออกมาซ่อมแล้วค่อยลงบันทึกรายละเอียดและปัญหา แต่ในปัจจุบันมีการใช้ระบบเครือข่ายเข้ามาช่วยในการแจ้งซ่อมซึ่งสะดวกและรวดเร็ว
2 . อินเทอร์เน็ต - มี เพราะระบบที่ใช้อยู่มีการทำงานแบบ Web-Based ซึ่งสามารถใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตได้
3 . พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ - มี เนื่องจากได้มีการเชื่อมต่อกับคุ่ค้าที่ได้มีการซึ้ออุปกรณ์บางอย่างที่ต้องให้เขาเข้ามาดำเนินการซ่อมเองและมีการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ผ่านทางระบบ
4 . ระบบสารสนเทศประมวลผลธุรกรรม - มี เพราะมีการเบิกจ่ายและตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างที่มีการเบิกจ่ายได้ตลอดเวลา
5 . ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ - มี เนื่องจากระบบที่ใช้อยู่สามารถทำให้ผู้บริหารเห็นข้อมูลต่างๆรวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีมากน้อยเพียงใด
6 . ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ - มี เพราะเราสามารถรู้ว่ามีปัญหากับอุปกรณ์ใดบ้างและแต่ละปัญหามีความสำคัญมากน้อยเพียงใดควรจะทำการแก้ไขปัญหาใดก่อนหรือหลัง
7 . ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง - มี เพราะระบบที่ใช้อยู่มีการสรุปผลจากทุกฝ่ายเพื่อช่วยในการวางแผนทางด้านการตั้งงบประมาณแต่ละปี
8 . ปัญญาประดิษฐ์ ระบบผู้เชี่ยวชาญและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ -ไม่มี ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรมีโดยเฉพาะการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆในสต็อกอาจจะทำเป็นระบบ คล้ายๆการบอกเส้นทางแต่เป็นการบอกตำแหน่งของอุปกรณ์แทนซึ่งจะทำให้สามารถลดระยะเวลาในการค้นหาได้
9 . ระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ - มี เพราะมีการเปลี่ยนการทำงานที่ล่าช้าหรือมีความยุ่งยากให้มีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
10 . ระบบการวางแผนทรัพยากรในงานอุตสาหกรรม -ไม่มี เพราะยังไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆที่อาจจะมีความยุ่งยากหรือซับซ้อนรวมทั้งปัญหาทางด้านบุคลากรที่ยังไม่มีความชำนาญ
11 . ระบบสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม -มี เพราะในการทำสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงมีการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปหลายๆประเภทเข้ามาช่วย
12 . ระบบสำนักงานอัตโนมัติ -มี เพราะมีการแจ้งซ่อมอุปกรณ์โดยผ่านทางคอมพิวเตอร์ซึ่งทำให้ลดการใช้เอกสารที่เป็นกระดาษ

การใช้ประโยชน์จาก RFID ในห่วงโซ่อุปทานของยา

การใช้ประโยชน์จาก RFID ในห่วงโซ่อุปทานของยา

1. สาเหตุที่นำระบบ RFID มาใช้ เพราะมีปัญหาในอุตสาหกรรมยา ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับยาล้นสต๊อกและยาที่เก็บจนหมดอายุ รวมไปถึงการป้องกันการปลอมแปลงและช่วยบริหารสต๊อกยาอีกด้วย โดยระบบ RFID นี้จะอำนวยความสะดวกสบายและเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบข้อมูลและประวัติของยาที่ผลิตและจำหน่าย เป็นการลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพในการใช้ยาให้มีความปลอดภัย

2. ข้อดี-ข้อเสียของการนำ RFID มาใช้
ข้อดี
1. ทำให้เห็นของในสต๊อกได้ทั้งหมด รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยระบบนี้สามารถตรวจจับยาได้ทุกภาชนะบรรจุไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหนของโซ่อุปทานก็ตาม ทำให้ง่ายและเร็วต่อการจัดการในการตรวจสอบและขนส่ง
2. สามารถควบคุมการสูญหายและปกป้องชื่อเสียงของยี่ห้อผลิตภัณฑ์ คือสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปและจำนวนของสินค้าได้ทุกจุดในโซ่อุปทาน
3. ความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์ยา การเรียกยาคืน และข้อกำหนดต่างๆ โดยระบบ RFID นี้สามารถตรวจสอบยาปลอมรวมทั้งล็อตของยาและวันหมดอายุ ซึ่งมีประโยชน์ในการบริหารการหมดอายุของยา และช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาสินค้าที่ต้องการเรียกกลับคืนได้เป็นอย่างดี

ข้อเสีย
1.มีราคาแพงอาจไม่คุ้มทุนถ้าหากว่าธุรกิจมีขนาดไม่ใหญ่
2. การดูแลระบบอาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ
3.เป็นการเพิ่มภาระต้นทุนในการทำธุรกิจ

3.RFID สามารถนำไปใช้ในงานอื่นๆได้อีก เช่น นำไปใช้ในห้องสมุด
RFID at Library ขณะนี้ได้มีห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของไทยได้ลองนำเทคโนโลยี RFID มาใช้นำร่องกับระบบห้องสมุด เพียงติดชิพอาร์เอฟไอดีไว้ที่หนังสือในห้องสมุด แล้วใส่ข้อมูลต่างๆ ของหนังสือเล่มนั้นๆ ไว้ในชิพ อย่างเช่น ข้อมูลชื่อหนังสือ ประเภทหนังสือ ชั้นที่เก็บหนังสือ และติดเครื่องอ่านไว้ตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งการนำเอา RFID มาใช้กับระบบห้องสมุดนี้ โดย RFID จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ดูแลและผู้ที่มาใช้บริการห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็น การยืมหรือคืนหนังสือ ที่สามารถทำได้ในคราวเดียว ไม่ต้องมานั่งคีย์ข้อมูลของหนังสือแต่ละเล่มแบบทีละเล่ม หรือไม่ต้องมานั่งยิงบาร์โค้ดไปทีละเล่ม เมื่อผู้ใช้บริการเดินผ่านเครื่องอ่าน เครื่องจะรับส่งสัญญาณวิทยุกับตัวชิพที่ติดในหนังสือ เพิ่มความรวดเร็วในการยืม-คืน เมื่อนำมาใช้ร่วมกับระบบคอมพิวเตอร์ในห้องสมุด จะช่วยตรวจสอบให้ด้วยว่า หนังสือเล่มที่นักศึกษาต้องการได้ถูกยืมไปหรือยัง กับการใช้เพียงระบบคอมพิวเตอร์ในการสืบค้นข้อมูลแบบเก่า ถึงในฐานข้อมูลจะบอกไว้ว่าหนังสือเล่มนี้ๆ ยังไม่มีใครยืมไป ทว่าเมื่อเดินหายังชั้นหนังสือแล้วกลับปรากฏว่า หนังสือได้หายตัวไปเสียแล้ว แต่กับห้องสมุดที่นำ RFID มาใช้ เพียงเครื่องอ่านที่บริเวณชั้นหนังสือได้รับสัญญาณจาก
ชิพว่าหนังสือถูกเก็บไว้ผิดที่ผิดทาง ก็จะระบุออกมาได้ว่าหนังสือเล่มนี้ๆ ขณะนี้ไปปรากฏตัวที่ชั้นหนังสือนี้ๆ เป็นการป้องกันการซ่อนหนังสือห้องสมุด แม้แต่ปัญหาการขโมยหนังสือของห้องสมุดก็สามารถป้องกันได้ เพราะชิพที่ติดที่หนังสือนี้เมื่อเดินทางผ่านเข้ามาในบริเวณพื้นที่รัศมีการอ่านของเครื่องอ่าน ก็จะได้รับและส่งสัญญาณวิทยุคุยกับเครื่องทันที และด้วยความเป็นคลื่นวิทยุนี้จึงช่วยให้สามารถส่งสัญญาณทะลวงออกมาจากกระเป๋าที่จะใช้ซ่อนหนังสือได้

ระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์

ข้อ 1. จงอธิบาย เปรียบเทียบ พร้อมยกตัวอย่างของไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจันคำตอบ.คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่กระจายตัวเองเช่นเดี่ยวกับไวรัส โดยการแพร่กระจายจากคอมพิวเตอร์ สู่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ โดยผ่านอีเมล์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์อ่าน เวิร์มจะเริ่มทำงานโดยการคัดลอกตัวเองและส่งผลจากจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเครื่องของคนอื่น ๆ ที่มีรายชื่ออยู่ใน E-mail เช่น “Nimda, “W32.Sobig”, W32.bugbeor” “W32.blaster” and “love bug” ซึ่งเป็นไฟล์ที่แนบมากับอีเมล์ที่กำหนดหัวเรื่องว่า “Love You”ม้าโทรจัน (Trojan torse) เป็นโปรแกรมรวมแต่แตกต่าง จากไวรัสและเวิร์มที่ ม้าโทรจัน จะไม่กระจายตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่น ๆ แต่ ม้าโทรจันจะแฝงอยู่กับโปรแกรมอื่น ๆ ที่อาจส่งผ่านมาทางอีเมล์ เช่น Ziped_filessexe. เมื่อมีการเรียกใช้ไฟล์ โปรแกรมก็จะลบไฟล์ที่อยู่ในฮาร์ดิสก์

ข้อ 2. สปายแวร์ (Spyware) คืออะไร และมีวิธีการติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างไรคำตอบ.คือ ไวรัสที่เป็นไฟล์ภาพกราฟิก มีขนาดเล็กและซ่อนตัวอยู่ที่เว็บเพจ ที่รวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการท่องโลกอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ แล้วส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ และวิธีการติดตั้งของเครื่อง คอมพิวเตอร์ คือ การติดตั้งจากแผ่น Driver หรือ การดาว์นโหลดจากอินเทอร์เน็ตมา เช่น โปรแกรมAd-aware ,Spycop เป็นต้น

ข้อ 3. ท่านมีวิธีการหลีกเลี่ยงการเป็นเป้าหมายของสแปมเมลอย่างไรบ้าง
คำตอบ.3.1 เป็นการบล็อกสแปมเมล์ก่อนที่เมล์เหล่านั้นจะถูกส่งไปยังกล่องจดหมาย
3.2 การติดตั้งโปรแกรม แอนตี้สแปม (Aati-Spam Program) ที่ช่วยกรองและกำจัดสแปมเมล์ก่อนที่เมล์เหล่านั้นจะถูกส่งไปยังกล่องเมล์

ข้อ 4. ท่านคิดว่าปัญหาในเรื่องความปลอดภัยใดบ้างที่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งานอินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ตในองค์การธุรกิจ และจะมีวิธีป้องกันหรือแก้ไขปัญหานั้นอย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
คำตอบ.คือ ปัญหาในเรื่องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นโดยป้องกันปัญหานั้น คือ ควรมีระบบตรวจสอบการเข้าใช้ เพื่อทำการอนุญาตการใช้ระบบนั้น เช่น การตรวจสอบเสียง ลายนิ้วมือ ฝ่ามอ ลายเซ็น และรูปหน้า เป็นต้น โดยอุปกรณ์จะทำการแปลงลักษณะส่วนบุคคลให้อยู่ในรูปของดิจิทัล แล้วทำการเปรียบเทียบกับข้อมูลใน คอมพิวเตอร์ ถ้าข้อมูลไม่ตรงกับคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ก็จะปฏิเสธการเข้าสู่ระบบ

ข้อ 5. ท่านคิดว่าการทำสำเนาแผ่นซีดีเพลงเป็นการกระทำผิดจริยธรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด และการดาวน์โหลดเพลงจากอินเทอร์เน็ตก็เช่นเดียวกัน ท่านมีความเห็นอย่างไร
คำตอบ.คือ การทำสำเนาแผ่นซีดีเพลงเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม เพราะซีดีเพลงที่ได้มานั้น ไม่ได้มาโดยง่ายเลย และยังเป็นลิขสิทธิ์ ของค่ายเพลงนั้นๆ ด้วย และการดาวน์โหลดเพลงจากอินเทอร์เน็ต ถือว่าผิดจริยธรรมเหมือนกัน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาสูง ดังนั้นการดาว์นโหลดเพลงจากอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นเรื่องปกติ

แบบฝึกหัดประจำสัปดาห์

ข้อที่ 1 ให้ยกตัวอย่างระบบงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์โดยแยกตามลักษณะงานของปัญญาประดิษฐ์อย่างละ 1 ข้อหรือมากที่สุด (เท่าที่ทำได้)

ตอบ -ศาสตร์ด้านหุ่นยนต์ (Robotics)
หุ่นยนต์สุนัข AIBO ของ SONY ก็เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทีเดียว เนื่องจากเป็นหุ่นยนต์ที่มี
AIเลียนแบบพฤติกรรมของสุนัขได้เหมือน จนคิดว่าเป็นสุนัขจริงๆทีเดียว ข้อดีคือไม่ต้องยุ่งกับการ
อาบน้ำ ให้อาหาร
-ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System)
1 อุตสาหกรรมการผลิตภัณฑ์ ได้ใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบ รถยนต์ ปฏิบัติการผลิต เช่น การพ่นสี การเชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ฯลฯ
2 อุตสาหกรรมการพิมพ์ เช่นระบบการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Publishing) ในการจัดเตรียมต้นฉบับบรรณาธิกรณ์ ตีพิมพ์ จัดเก็บ และจัดจำหน่าย และสามารถพิมพ์ข้อมูลจากระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) วีดีโอเท็กซ์ วัสดุย่อส่วนและเทเลเท็กซ์ได้รวมทั้งการพิมพ์ภาพโดยใช้เทอร์มินัลเสนอภาพ (Visual Display)


ข้อที่2 สมมุติว่าท่านเป็นผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ท่านจะนำข้อมูลในเรื่องใดบ้างมาประกอบการตัดสินใจการบริหารของท่านบ้าง จงยกตัวอย่าง

ตอบ 1) ข้อมูลภายในองค์การ ได้แก่
1.1 ข้อมูลที่ได้จากกระบวนการดำเนินงาน เช่น การออกแบบ การควบคุมการผลิต
1.2 ข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงเป้าหมาย หรือผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ของการปฏิบัติงาน
(Key Performance Indicators : KPI)
2) ข้อมูลภายนอกองค์การ ซึ่งข้อมูลนี้มีเกี่ยวข้อง หรือมีผลกระทบต่อองค์การ เช่น การแข่งขัน
เศรธฐกิจ ความต้องการลูกค้า
3) ข่าวสารที่ใช้ติดต่อสือสารระหว่างกัน ควรเป็นข้อมูลที่สรุปได้ใจความ มีรูปแบบที่ง่ายต่อการเข้าใจ

ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์

อธิบายความหมาย และองค์ประกอบหลักของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ

1. อธิบายความหมาย และองค์ประกอบหลักของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
ตอบ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) เป็นระบบย่อยหนึ่งในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ โดยที่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจจะช่วยผู้บริหารในเรื่องการตัดสินใจในเหตุการณ์หรือกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่มีโครงสร้างแน่นอน หรือกึ่งโครงสร้าง ระบบสนับสนุนการตัดสินใจอาจจะใช้กับบุคคลเดียวหรือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเป็นกลุ่ม นอกจากนั้น ยังมีระบบสนับสนุนผู้บริหารเพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
องค์ประกอบหลัก
1.ระบบย่อยในการจัดการข้อมูล (Data management subsystem) ได้แก่ฐานข้อมูลที่บรรจุข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้นๆ และถูกจัดการโดยซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management Systems : DBMS)
2.ระบบย่อยในการจัดการตัวแบบ (Model management subsystem) เป็นชุดซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่รวมการทำงานเช่น การทำงานด้านการเงิน, สถิติ, วิทยาการการจัดการ หรือตัวแบบเชิงปริมาณอื่นๆ ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล และมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดการที่เหมาะสม เรียกว่า ระบบจัดการ ฐานตัวแบบ (Model base management system : MBMS)
3.ระบบย่อยในการจัดการความรู้ (Knowledge management subsystem) เป็นระบบย่อยซึ่งสนับสนุนระบบย่อยอื่นๆ หรือเป็นส่วนประกอบแบบอิสระไม่ขึ้นกับองค์ประกอบอื่นๆ ช่วยให้ข้อมูลหรือความรู้แก่ ผู้ตัดสินใจ
4.ระบบย่อยในการติดต่อกับผู้ใช้ (User interface subsystem) ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารและสั่งงานระบบสนับสนุนการตัดสินใจโดยผ่านระบบย่อยนี้
2. ลักษณะและความสามารถของระบบสนับสนุนการตัดสินใจมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ ลักษณะและความสามารถของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
1. สามารถสนับสนุนการตัดสินใจทั้งในสถานการณ์ของปัญหาแบบกึ่งโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง
2. สามารถรองรับการใช้งานของผู้บริหารทุกระดับ
3. สามารถสนับสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่ม และแบบเดี่ยว
4. สามารถสนับสนุนการตัดสินใจได้ทั้งปัญหาแบบเกี่ยวพันและ/หรือปัญหาต่อเนื่อง
5. สนับสนุนการตัดสินใจในขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการตัดสินใจได้
6. สนับสนุนกระบวนการและรูปแบบการตัดสินใจที่มีความหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. มีความยืดหยุ่นสูง
8. ใช้งานง่าย
9. ในการพัฒนาจะเน้นหนักในการทำงานที่สำเร็จตามเป้าหมายมากกว่าค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ
10. มีหน้าที่สนับสนุนการตัดสินใจเท่านั้น ไม่ใช่ทำหน้าที่แทนผู้ตัดสินใจ
11. ระบบที่มีความซับซ้อน ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
12. เป็นระบบที่ใช้วิธีวิเคราะห์สถานการณ์การตัดสินใจด้วยแบบจำลองต่าง ๆ ระบบจึงต้องสามารถสร้างแบบจำลอง เพื่อทดสอบป้อนค่าตัวแปร และ
เปลี่ยนค่าไปเรื่อย ๆ เพื่อสร้างทางเลือกต่าง ๆ
13. สามารถเข้าถึงแหล่งเก็บข้อมูลได้หลากหลาย
3. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจขั้นสูงมีความแตกต่างจากระบบผู้เชี่ยวชาญอย่างไร
ตอบ - ระบบสนับสนุนการตัดสินใจจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของมนุษย์ ผู้ใช้ระบบทำการตัดสินใจเอง และป้อนข้อมูลฐานระบบขอบเขตกว้างและซับ
ซ้อน ไม่มีความสามารถในการให้เหตุผลและจำกัดความสามารถในการอธิบาย ส่วน
- ระบบผู้เชี่ยวชาญ มีวัตถุประสงค์ในการทดแทนคำแนะนำของในมนุษย์ มีระบบทำการตัดสินใจและระบบคำถามกับผู้ใช้ ขอบเขตแคบและเฉพาะ
เจาะจง มีความสามารถในการให้เหตุผลอย่างจำกัด และมีความสามารถในการอธิบาย

4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่มมีประโยชน์ และแตกต่างจากระบบสนับสนุนส่วนบุคคลอย่างไร
ตอบ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่ม เป็นการตัดสินปัญหาบางส่วนในองค์การต้องอาศัยการตัดสินใจในรูปของคณะกรรมการกรือคณะทำงาน
ประโยชน์ของระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่ม
1. ช่วยเตรียมความพร้อมในการประชุม
2. อำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารระหว่างสมาชิก
3. ส่งเสริมและสร้างบรรยากาศในการร่วมมือกัน
4. จัดเตรียมข้อมูลและสารสนเทศที่เหมาะสม
5. ช่วยจัดลำดับความสำคัญของปัญหา
6. อำนวยความสะดวกในการจัดทำเอกสารประกอบการประชุม
7. ช่วยประหยัดเวลาและสามารถลดจำนวนครั้งของการประชุมได้
- ส่วนระบบสนับสนุนการตัดสินใจส่วนบุคคลได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของแต่ละบุคคล ซึ่งผู้ใช้สามาถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขต่างๆได้
ด้วยตนเอง
5.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจนำมาใช้ในธุรกิจต่างๆ ด้านล่างนี้ได้อย่างไร จงอธิบาย และยกตัวอย่างประกอบ
5.1 ธุรกิจโรงเรียน ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
5.2 ธุรกิจโรงพยาบาล ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
5.3 ธุรกิจผลิตรถยนต์ ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
5.4 ธุรกิจขายรถยนต์ ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
5.5 ธุรกิจโรงแรม ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
5.6 ธุรกิจผลิตน้ำแข็ง ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
5.7 ธุรกิจผลิตน้ำมัน ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
5.8 ธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก ในระดับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เชิงยุทธวิธี และเชิงปฏิบัติการ
ตอบ 5.1 การใช้โปรแกรมเครื่องมือในการออกเสียงเลือกประธานนักเรียน
5.2 การบันทึกประวัติผู้ป่วยออนไลท์
5.3 การออกแบบโครงสร้างรถยนต์ในแต่ละรุ่น
5.4 การสั่งซื้อ และสั่งจองรถยนต์ทาง Inter net
5.5 การจองที่พักและการคำนวณค่าใช้จ่าย
5.6 การควบคุมการผลิตโดยระบบคอมพิวเตอร์
5.7 การตรวจเช็คคุณภาพของน้ำมันจากกระบวนการผลิต
5.8 การตรวจสอบความต้องการเม็ดพลาสติกแต่ละชนิด

ตอบคำถามท้ายบทที่ 3

1. Instant Messaging (IM) คืออะไร สามารถสนับสนุนกระบวนการดำเนินธุรกิจได้อย่างไรบ้างและช่วยลดค่าใช้จ่ายโทรศัพท์ได้อย่างไร
ตอบ IM คือ โปรแกรมที่ใช้ในการสื่อสารและส่งข้อความในระหว่างเพื่อนหรือกลุ่มคนที่อยูในอินเทอร์เน็ต โดยรูปแบบจะคล้ายกับ E-mail โดยรูปแบบการส่งข้อมูลจะประกอบไปด้วยตัวหนังสือในการส่งแต่ละครั้ง แต่จะต่างกับ E-mail ตรงที่ คุณไม่ต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงหรือวันๆ เพื่อรอการตอบกลับจากเพื่อนของคุณ เพราะข้อความที่คุณส่งไป จะส่งตรงไปหาเพื่อนของคุณ “ทันที” เหมือนกับการพูดคุยปกติ สามารถสนับสนุนกระบวนการดำเนินธุรกิจ ทางด้านการสั่งซื้อสินค้าโดยการสั่งสินค้าผ่านระบบ Instant Messaging (IM) จะช่วยลดค่าใช้จ่ายแทนการสั่งซื้อทางโทรศัพท์

2. E-Commerce แตกต่างจาก E-Bussiness อย่างไร
ตอบ E-Commerce เป็นส่วนหนึ่งของ E-Bussiness คือ E-Bussiness จะมีการดำเนินธุรกรรมทุกขั้นตอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในส่วนหน้าร้าน (Front Office) และหลังร้าน (Back Office) ในขณะที่ E-Commerce จะทำการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น

3. E-Commerce กับ M-Commerce ต่างกันหรือไม่ จงอธิบาย
ตอบ แตกต่างกัน เพราะ(E-Commerce) เป็นกระบวนการในการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านระบบเครือข่าย แต่ M-Commerce มาจาก Mobile-Commerce ก็คือ การทำธุรกรรรมผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีข้อได้เปรียบมากกว่า E-Commerce หลายอย่าง

4.จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างการทำธุรกิจแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B), ธุรกิจกับลูกค้า (B2C), ธุรกิจกับภาครัฐ (B2G) และลูกค้ากับลูกค้า (C2C)
ตอบ - ธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างที่มุ้งเน้นให้บริการกับลูกค้าที่เป็นองค์การธุรกิจด้วยกัน เช่น ผู้ผลิต-ผู้ผลิต ผู้ผลิต-ผู้ส่งออก ผู้ผลิต-ผู้นำเข้า และผู้ผลิต-ผู้ค้าส่ง
- ธุรกิจกับลูกค้า (B2C) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้ขายที่เป็นองค์การธุรกิจกับผู้ซื้อหรือลูกค้าแต่ละคนอาจเป็นการค้าปลีกแบบล็อตใหญ่หรือเหมาโหล หรือแบบขายปลีกที่มีมูลค่าการซื้อขายสินค้าจำนวนไม่สูง เช่น ร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ การจองตั๋วเครื่องบิน
- ธุรกิจกับภาครัฐ (B2G) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเอกชนกับภาครัฐ ได้แก่การประมูลออนไลน์ (E-Auction) และการจัดซื้อจัดจ้าง (E-Procurement)
- ลูกค้ากับลูกค้า (C2C) เป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนและซื้อ-ขายสินค้าอาจทำผ่าน Website เช่น การประมูลสินค้า ซึ่งผู้ค้าเอามาฝากไว้กับ website ที่ให้บริการ


5. จงยกตัวอย่างปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความสำเร็จและล้มเหลวมาอย่างละ 5 ข้อ
ตอบ ปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความสำเร็จ
1. กล้าตัดสินใจ ประการแรกที่ต้องทำคือ ค้นคว้าหาข้อมูล สร้างจินตนาการ กลั่นกรองความคิด หาช่องทางและโอกาสเมื่อมองเห็น จงกล้าตัดสินใจดำเนินการ
2. หน้าที่หลักของท่านคือ การคิดเรื่องการตลาด เมื่อตัดสินใจแล้วหน้าที่หลักคือ การวางแผนการตลาด คือจะขายให้ใคร ความต้องการและพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายนั้นเป็นอย่างไร จะวางตำแหน่งสินค้าอย่างไร จะต้องพัฒนาสินค้าอย่างไรเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้น
3. โปรแกรมด้าน E-commerce มีความพร้อมให้ใช้งานอยู่แล้วสำหรับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น มีให้ใช้โดยทั่วไปอยู่แล้ว เช่น www.ecombot.com ซึ่งมีระบบครบถ้วนสมบูรณ์อยู่แล้ว ทั้งหน้าร้าน หรือออกแบบเว็บเพจให้มี ระบบออนไลน์แคตาล็อค ระบบตระกร้า หรือ Shopping Cart ระบบรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตแบบ Real-time ระบบติดตามผลการขาย ระบบออกรายงานขาย ระบบลงทะเบียน Search Engines
4. ใช้งบประมาณลงทุนน้อย เงินลงทุนที่ใช้เพียงค่าสมาชิกอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ โมเด็ม และค่าโปรแกรม
5. เร่งงานให้เสร็จตามกำหนด เวลา ในการลงมือทำงานแล้ว สิ่งสำคัญต้องเร่งทำเดินงานให้เสร็จทันตามเวลา
ปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความล้มเหลว
1. การลอกเลียนแบบ เป็นการทำธุรกิจตามคนอื่นที่ทำอยู่ก่อนแล้ว เห็นทำเว็บก็ทำตาม
2. การอยู่กับความฝัน เป็นการอาศัยแนวความคิดแต่ไม่ได้ลงมือปฏิบัติให้เห็นจริง หรือทำครึ่ง ๆ กลาง ๆ
3. ทำเว็บไซต์ที่วิจิตรสวยงาม การทำเว็บไซต์ให้สวยงาม เน้นความเลิศหรู จนลืมแก่นแท้ของความต้องการผู้ใช้เว็บหรือกลุ่มเป้าหมายไป
4. ทำเว็บไซต์แบบไร้ทิศทางการทำเว็บไซต์ที่นึกอะไรได้ก็ทำไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้นึกถึงความเชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์กัน
5. ไม่มีระบบสนับสนุนพื้นฐานที่เพียงพอการไม่มีระบบสนับสนุนพื้นฐานที่เพียงพอ

6. Internet ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์กับลูกค้าอย่างไรบ้าง
ตอบ เป็นชุมชนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีทั้ง ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ เข้าออกแล้วค้นหาสินค้าและบริการตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ Internet จึงเป็นเหมือนจุดศูนย์การในการทำธุรกิจของโลกปัจจุบันมาก

7. Internet มีประโยชน์ต่อการให้บริการลูกค้าอย่างไรบ้าง
ตอบ มีหน้าที่ให้บริการต่าง ๆ กับลูกค้าตั้งแต่การค้นข้อมูลของ สินค้าและบริการ การสั่งซื้อ หรือแม้แต่การชำระเงินก็สามารถทำได้สะดวก สินค้าและบริการบ้างอย่างก็จะมีการให้บริการหลังการขายผ่านทาง Internet ด้วย

8. ในยุคความเจริญของ internet ความเร็วสูง การจำหน่าย softeware ในรูปแบบของ CD-Rom น่าจะลดน้อยลงและได้รับความนิยมน้อยกว่าการจำหน่ายโดยวิธีการ download ผ่านทาง internet แต่ในปัจจุบันกลับไม่เป็นเช่นนั้น การจำหน่าย software ในรูปของ CD-Rom ยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ท่านคิดว่าเป็นเพราะเหตุผลใด
ตอบ เป็นความไม่มั่นใจของ File ที่ Download มาแล้วนั้นจะไม่สมบูรณ์แล้วต้องทำการ Download ใหม่เป็นการเสียเวลาจึงทำให้ส่วนใหญ่ CD-Rom ยังเป็นที่นิยมของการจำหน่าย Software ในปัจจุบันนี้ เพราะการติดตั้ง software โดยผ่าน CD-ROM น่าจะช่วยลดปัญหาไวรัสเข้าสู่ระบบ Computer มากกว่าการ Download ผ่านทาง Internet

9.จงยกตัวอย่างของธุรกิจที่ทำการค้าแบบ E-Commerce มา 1 ธุรกิจ
ตอบ การขายโทรศัพท์มือถือผ่านทาง E-Commerce


ขายสินค้า

http://www.tarad.com/ttk2552